ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเล่นเกมการพนันออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์

ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเล่นเกมการพนันออนไลน์-บาคาร่าออนไลน์
ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเล่นเกมการพนันออนไลน์-บาคาร่าออนไลน์

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคาสิโนทั่วโลก ทั้งในแบบออนไลน์และแบบคาสิโนสด ด้วยกติกาที่ง่ายและการเล่นที่ไม่ซับซ้อน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเซียนพนัน ก็สามารถสนุกกับบาคาร่าได้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเล่น เพื่อให้คุณพร้อมลุยกับเกมนี้อย่างมั่นใจ!

วิธีการเล่นบาคาร่า-เล่นง่าย-ได้เงินฉับไว
วิธีการเล่นบาคาร่า-เล่นง่าย-ได้เงินฉับไว

วิธีการเล่นบาคาร่า

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่ายมาก ผู้เล่นมีสามตัวเลือกในการวางเดิมพัน คือ เดิมพันที่ผู้เล่น (Player) เจ้ามือ (Banker) หรือเสมอ (Tie) กติกาของเกมค่อนข้างง่าย และเข้าใจได้ไม่ยาก

  1. การแจกไพ่: ผู้เล่นและเจ้ามือจะได้รับไพ่สองใบ โดยไพ่ทั้งสองใบจะถูกหงายหน้า การนับแต้มในบาคาร่านั้นง่ายมาก ไพ่หมายเลข 2-9 มีค่าเท่ากับตัวเลขบนไพ่ ไพ่หมายเลข 10 และไพ่หน้า (J, Q, K) มีค่าเท่ากับ 0 ส่วนไพ่เอซ (A) มีค่าเท่ากับ 1 แต้มรวมของไพ่จะถูกนับตามหลักหน่วยเท่านั้น เช่น ถ้าได้ไพ่ 8 และ 7 รวมกันเป็น 15 แต้มจะนับเป็น 5
  2. การจั่วไพ่ใบที่สาม: กติกาในการจั่วไพ่ใบที่สามนั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่นี่คือกฎหลักๆ:
    • ถ้าแต้มรวมของไพ่ผู้เล่นคือ 0-5 ผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่ใบที่สาม
    • ถ้าแต้มรวมของไพ่ผู้เล่นคือ 6-7 ผู้เล่นจะต้องอยู่ (Stand)
    • ถ้าแต้มรวมของไพ่ผู้เล่นคือ 8-9 จะถือว่าเป็นการชนะแบบ “เนเชอรัล” (Natural) และจะไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม
    • สำหรับเจ้ามือ กฎในการจั่วไพ่ใบที่สามจะขึ้นอยู่กับแต้มรวมของไพ่เจ้ามือและไพ่ใบที่สามของผู้เล่น ซึ่งสามารถดูได้จากตารางการจั่วไพ่
  3. การนับแต้มและการตัดสิน: หลังจากการจั่วไพ่เสร็จสิ้น มือที่มีแต้มใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากเดิมพันถูกต้อง ผู้เล่นจะได้รับเงินรางวัลตามอัตราการจ่ายที่กำหนด

ประเภทของบาคาร่า

บาคาร่ามีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะตัว

  • Punto Banco: เป็นรูปแบบบาคาร่าที่นิยมในคาสิโนทั่วโลก ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้ทั้งที่ผู้เล่นหรือเจ้ามือ กติกาง่ายๆ ทำให้เกมนี้เป็นที่นิยม
  • Chemin de Fer: เป็นรูปแบบบาคาร่าที่นิยมในฝรั่งเศส ผู้เล่นจะเล่นกันเองโดยไม่ผ่านเจ้ามือ
  • Baccarat Banque: ผู้เล่นคนหนึ่งจะทำหน้าที่เป็นเจ้ามือและเล่นกับผู้เล่นคนอื่น ๆ

การวางเดิมพันในบาคาร่า

การวางเดิมพันในบาคาร่านั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความเสี่ยงและอัตราการจ่ายที่แตกต่างกัน

  1. เดิมพันที่ผู้เล่น (Player): ถ้าผู้เล่นชนะ จะได้รับเงินรางวัลในอัตรา 1:1
  2. เดิมพันที่เจ้ามือ (Banker): ถ้าเจ้ามือชนะ จะได้รับเงินรางวัลในอัตรา 1:1 แต่ต้องหักค่าคอมมิชชั่น 5%
  3. เดิมพันที่เสมอ (Tie): ถ้าเสมอ จะได้รับเงินรางวัลในอัตรา 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับคาสิโนแต่ละแห่ง
  4. เดิมพันไพ่คู่ (Pair): เดิมพันว่าผู้เล่นหรือเจ้ามือจะได้ไพ่คู่ จะได้รับเงินรางวัลในอัตรา 11:1
แนะนำระบบเดิมพันอย่างเซียนสำหรับเกมบาคาร่าออนไลน์
แนะนำระบบเดิมพันอย่างเซียนสำหรับเกมบาคาร่าออนไลน์

Betting Systems ในบาคาร่า อย่างละเอียด

การเล่นบาคาร่าด้วยการใช้ระบบการเดิมพันสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะและการจัดการงบประมาณได้ดีขึ้น นี่คือระบบการเดิมพันที่ได้รับความนิยมในบาคาร่า

1. ระบบ Martingale

เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากการแพ้ทุกครั้ง จนกว่าจะชนะ แล้วกลับไปเดิมพันเท่าเดิม

วิธีการใช้

  1. เริ่มเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 100 บาท
  2. หากแพ้ในรอบแรก เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าในรอบถัดไป เช่น 200 บาท
  3. หากยังแพ้อีก เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าอีกครั้ง เช่น 400 บาท
  4. ทำเช่นนี้จนกว่าจะชนะ เมื่อชนะแล้วกลับไปเดิมพันจำนวนเงินเริ่มต้น

ข้อดี: ระบบนี้ช่วยให้คุณกลับมาทำกำไรได้ทันทีหลังจากชนะ

ข้อเสีย: หากเกิดการแพ้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เงินทุนที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นมาก

2. ระบบ Fibonacci

ใช้ลำดับ Fibonacci ในการเพิ่มเดิมพันหลังจากแพ้

ลำดับ Fibonacci: 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, …

วิธีการใช้

  1. เริ่มเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 100 บาท (เริ่มต้นที่ 1 หน่วย)
  2. หากแพ้ ให้เพิ่มเดิมพันตามลำดับ Fibonacci: 100, 100, 200, 300, 500, …
  3. หากชนะ ให้กลับไปเดิมพันตามลำดับ Fibonacci 2 ขั้นก่อนหน้า เช่น ถ้าชนะที่ 500 บาท ให้กลับไปเดิมพันที่ 200 บาท

ข้อดี: ระบบนี้ไม่เพิ่มเดิมพันเร็วเท่ากับ Martingale ทำให้ลดความเสี่ยงในกรณีที่แพ้ติดต่อกัน

ข้อเสีย: การใช้ระบบ Fibonacci ต้องใช้ความระมัดระวังและความเข้าใจในลำดับ Fibonacci

3. ระบบ Paroli

เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากชนะทุกครั้ง โดยตั้งเป้าหมายการชนะต่อเนื่อง 3 ครั้ง

วิธีการใช้

  1. เริ่มเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 100 บาท
  2. หากชนะในรอบแรก ให้เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าในรอบถัดไป เช่น 200 บาท
  3. หากชนะอีก ให้เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าอีกครั้ง เช่น 400 บาท
  4. หากชนะครบ 3 ครั้ง กลับไปเริ่มต้นที่เดิมพันแรก

ข้อดี: ระบบนี้ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากในขณะที่ลดความเสี่ยงเมื่อแพ้

ข้อเสีย: ต้องการชนะต่อเนื่องเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด หากแพ้ตั้งแต่รอบแรกหรือรอบที่สองจะทำให้เสียเงินเดิมพันเดิม

4. ระบบ Labouchere

กำหนดเป้าหมายกำไรที่ต้องการ แล้วแบ่งเป็นลำดับตัวเลข ใช้ตัวเลขนี้ในการวางเดิมพัน

วิธีการใช้

  1. กำหนดเป้าหมายกำไร เช่น 500 บาท และแบ่งเป็นลำดับตัวเลข: 100, 100, 100, 100, 100
  2. เดิมพันด้วยผลรวมของตัวเลขแรกและตัวเลขสุดท้ายในลำดับ: 100 + 100 = 200 บาท
  3. หากชนะ ให้ตัดตัวเลขแรกและสุดท้ายออก: 100, 100, 100
  4. หากแพ้ เพิ่มจำนวนเงินที่เดิมพันไปยังปลายลำดับ: 100, 100, 100, 200
  5. ทำซ้ำจนกว่าจะได้กำไรตามเป้าหมาย

ข้อดี: ช่วยให้คุณมีแผนการเดิมพันที่ชัดเจนและเป้าหมายที่แน่นอน

ข้อเสีย: หากแพ้ติดต่อกัน ลำดับตัวเลขจะยาวขึ้นและต้องใช้เงินเดิมพันมากขึ้น

5. ระบบ D’Alembert

เพิ่มเดิมพันหนึ่งหน่วยหลังจากแพ้ และลดเดิมพันหนึ่งหน่วยหลังจากชนะ

วิธีการใช้

  1. เริ่มเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 100 บาท
  2. หากแพ้ ให้เพิ่มเดิมพันเป็น 200 บาท
  3. หากชนะ ให้ลดเดิมพันลงเป็น 100 บาท
  4. ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนกว่าจะได้กำไรหรือหยุดเล่น

ข้อดี: ระบบนี้ไม่เพิ่มเดิมพันเร็วเท่ากับ Martingale ทำให้ลดความเสี่ยง

ข้อเสีย: อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะได้กำไรตามเป้าหมาย

สรุป

การเล่นบาคาร่านั้นทั้งสนุกและง่ายดาย แต่เพื่อให้คุณมีประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุด ควรทำความเข้าใจกติกาและกลยุทธ์ต่างๆ อย่าลืมจัดการงบประมาณการเล่นของคุณให้ดี และเลือกเล่นในรูปแบบที่คุณถนัดที่สุด